ประวัติความเป็นมา
ชื่อ ตำบลตะกรบ ตั้งอยู่ในหมู่ที่ 2 เดิมมีชื่อเรียกว่า บ้านดอนขรบ คำว่า ขรบ หมายถึง ต้นไม้ชนิดหนึ่งซึ่งมีหนามทั้งต้น ผลกินได้ หรือเรียกอีกชื่อคือ ต้นขรบ บริเวณพื้นที่นี้ส่วนใหญ่มีต้นไม้ชนิดนี้ชุกชุม จงเรียกบริเวณนี้ว่า ดอนขรบ และได้ถูกเปลี่ยนเป็นบ้านดอนตะขบและต่อมาก็เพี้ยนไปเป็นบ้านตะขรบ จนถึงทุกวันนี้
บ้านไสค้อ ตั้งอยู่ในหมู่ที่ 2 ในท้องที่หมู่บ้านนี้มีต้นไม้ชนิดหนึ่งเรียกต้นค้อ มีมากจนเรียกว่าป่าค้อ หรือ ไสค้อ เมื่อมีหมู่บ้านผู้คนมาตั้งถิ่นฐานทำมาหากินซึ่งเรียกหมู่บ้านนี้ว่า “บ้านไสค้อ”
บ้านวังตูม ตั้งอยู่ในหมู่ที่ 2 ชื่อบ้านนี้ถูกเรียกตามลักษณะของท้องที่กล่าวคือแต่เดิมมีวังน้ำลึกและใหญ่มาก มีจระเข้อาศัยอยู่ บริเวณรอบๆ วังน้ำนั้นส่วนใหญ่แล้วเป็นต้นไม้ชนิดที่เรียกว่า ต้น-ตาตุ่ม หรือที่ชาวบ้านเรียก ต้นตูม ดังนั้น วังน้ำนี้จึงได้ชื่อว่า วังตูม ครั้นมีผู้คนมาตั้งบ้านเรือนบริเวณนี้ จึงเรียกชื่อหมู่บ้านนี้ว่า “บ้านวังตูม”
บ้านบางโฉลง อยู่ในท้องที่หมู่ที่ 1 การตั้งชื่อหมู่บ้านนี้เป็นการตั้งชื่อ เพื่อให้เป็นมงคลแก่หมู่บ้าน คือตั้งชื่อว่าโฉลก ส่วนคำว่า บาง นั้นหมายถึงทางน้ำเล็ก ๆ ที่ไหลไปรวมกับคลองใหญ่ เรียกชื่อบางนั้นว่า บางโฉลก แล้วคำเรียกนั้นค่อย ๆ เปลี่ยนไปเป็นบางโฉลง เมื่อมีบ้านคนอาศัยจึงเรียกหมู่บ้านนี้ว่า“บ้านบางโฉลง”
บ้านฝ่ายพรุ อยู่ในท้องที่หมู่ที่ 1 มีเรื่องเล่ากันมาว่า มีผู้ชายอยู่สองฝ่ายหรือสองพวก ทั้งสองพวกนี้ไม่ค่อยจะเป็นมิตรกัน ทุกปีจะมีการพนันแข่งขันกันและมักจะมีเรื่องราวทะเลาะวิวาทกันเสมอมา มาปีหนึ่งมีการพนันแข่งขันกันอีก และก็ได้ทะเลาะกันอย่างรุนแรง จนถึงขั้นชกต่อยกันขึ้น มีผู้หญิงฉลาดคนหนึ่งได้หาทางที่จะทำให้คนทั้งสองพวกเลิกราการชกต่อย จึงได้จุดประทัดขึ้นต่างฝ่ายนึกว่าเป็นเสียงปืนของอีกฝ่าย-หนึ่ง จึงตกใจวิ่งหนีไปคนละทาง พวกหนึ่งวิ่งข้ามพรุ ไปอีกฟากหนึ่งของพรุ ได้ และเรียกสถานที่ตรงนั้นว่า ฝ่ายพรุ เมื่อผู้คนไปตั้งบ้านเรือนจึงเรียกหมู่บ้านนั้นว่า “บ้านฝ่ายพรุ”
บ้านห้วยพุน ตั้งอยู่ในท้องที่หมู่ที่ 3 และหมู่ที่ 4 มีเรื่องเล่าว่า ครั้งหนึ่งได้มีการยกกองกำลังจากเมืองหลวงเพื่อไปตีเมืองนครศรีธรรมราช ขณะเดินทัพมาถึงสถานที่ตรงนี้ ผู้เป็นนายทัพเห็นว่าสถานที่ตรงนี้เหมาะสมกับการที่จะพักพล เพราะมีห้วยน้ำพอที่ใช้อาบและกินได้ จึงหยุดทัพพักพล สถานที่ตรงนี้ จึงถูกเรียกว่า ห้วยพล และเพี้ยนมาเป็น ห้วยพุน ตามสำเนียงของคนไชยา
บ้านดอนม่วง อยู่ในท้องที่ของหมู่ที่ 5 ตามลักษณะของหมู่บ้าน เป็นดอนทราย คือสภาพของดินเป็นดินทราย บนที่ดอนนี้มีต้นมะม่วงชนิดหนึ่งซึ่งชาวบ้านเรียกกันว่ามะม่วงคันและมีเป็นจำนวนมาก ซึ่งยังคงมีอยู่ถึงทุกวันนี้ แต่ละต้นสูงใหญ่แต่ถูกชาวบ้านโค่นเสียบ้างแล้ว แต่ก็ยังคงเหลืออยู่อีกมาก หมู่บ้านนี้จึงถูกเรียกว่า “บ้านดอนม่วง”
บ้านท่าเกตุ อยู่ในท้องที่หมู่ที่ 5 หมู่บ้านนี้ตั้งอยู่ริมคลอง หรือท่าริมคลองนี้มีต้นเกตุอยู่ จึงเรียก ท่าเกตุ
บ้านบ่อคา อยู่ในท้องที่หมู่ที่ 5 มีเรื่องเล่ากันว่ามีชายคนหนึ่งสร้างบ่อน้ำที่สวยงามมากแต่สร้างยังไม่เสร็จ คำพูดของชาวบ้านเรียกว่า สร้างคา แต่ที่ต้องสร้างไม่เสร็จก็เพราะว่า ชายคนนี้มีลูกสาวสองคนแต่ลูกสาวทั้งสองเกิดไปรักชายคนเดียวกัน วันหนึ่งลูกสาวทั้งสองไปรักชายคนเดียวกัน วันหนึ่งลูกสาวทั้งสองคนไปอาบน้ำที่บ่อนั้น แต่อาบน้ำยังไม่ทันเสร็จเรียบร้อยก็ได้รู้ว่าชายที่ตนรักมาเยี่ยมที่บ้านก็เลยรีบอาบน้ำให้เสร็จ ด้วยความรีบร้อนน้องสาวจึงตกลงไปในบ่อน้ำ พี่สาวกระโดดลงไปช่วยเลยจมน้ำตายทั้งคู่ พ่อเสียใจมากจึงไม่สร้างบ่อนี้ต่อไปให้เสร็จ คนเรียกบ่อน้ำนั้นว่า บ่อคา จนกลายมาเป็นบ่อคา
|
|